เมื่อกล่าวถึงสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แน่นอนว่าจะต้องหมายถึงสถานที่ซึ่งแสดงถึงความมหัศจรรย์อันเกิดจากฝีมือบวกภูมิปัญญาของมนุษย์เช่น กำแพงเมืองจีน โคลอสเซียม หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติเช่น แกรนด์ แคนยอน


สโตนเฮนจ์ (Stonehenge)

วันนี้เราจะมาแนะนำให้ได้รู้จักกับสิ่งมหัศจรรย์อีกหนึ่งแห่งซึ่งแตกต่างจากสิ่งมหัศจรรย์อื่นอย่างสิ้นเชิงเพราะจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร สิ่งที่เรากำลังจะแนะนำก็คือ "สโตนเฮนจ์" (Stonehenge) กลุ่มแท่งหินประหลาดที่ตั้งอยู่บนที่ราบซอลส์บรีทางตอนใต้ของอังกฤษที่ถูกยกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง

สโตนเฮนจ์คือกลุ่มแท่นหินประหลาดขนาดยักษ์จำนวน 112 ก้อนตั้งเรียงรายกันเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 ชั้น บนพื้นที่ราบโล่งซึ่งไม่น่าจะมีอยู่ได้ ก้อนหินมีทั้งที่วางในแนวตั้ง แนวนอนและบางก้อนก็มีการยกซ้อนขึ้นไปด้านบนก้อนอื่นซึ่งหินแต่ละก้อนนั้นคาดว่าน่าจะมีน้ำหนักหลายตันเลยทีเดียว

แม้จะมีนักวิชาการที่มีความรู้ทั้งนักโบราณคดี นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์จะพยายามตั้งทฤษฏีขึ้นมามากมายแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนได้ว่าสโตนเฮนจ์นั้นสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อะไรและใครเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา

มีการสันนิษฐานว่ากลุ่มก้อนหินยักษ์เหล่านี้น่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 5,000 ปี แต่ที่น่าสงสัยคือคนในสมัยก่อนสามารถเคลื่อนย้ายหินน้ำหนักหลายตันขึ้นไปวางเรียงไว้ได้อย่างไร ประกอบกับพื้นที่บริเวณโดยรอบก็ไม่มีหินที่มีลักษณะใกล้เคียงกันอยู่เลยจึงน่าจะมีการขนย้ายก้อนหอนมาจากที่อื่นโดยสันนิษฐานไปไกลว่าถูกนำมาจากทุ่งโล่งมาร์ลโบโร ดาวน์ส (Marlborough Downs) ที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร

นับเป็นเรื่องน่าคิดว่าคนในสมัยก่อนขนย้ายก้อนหินขนาดยักษ์เหล่านี้ได้อย่างไรเพราะแม้แต่เครื่องมือในยุคปัจจุบันก็ยังไม่แน่ว่าจะสามารถทำเช่นนั้นได้ หรือว่าเดิมทีกลุ่มแท่งหินยักษ์อาจจะตั้งอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่มนุษย์ทำการเคลื่อนย้ายวัตถุที่อยู่รอบๆออกไปเพื่อให้เหลือเพียงสโตนเฮนจ์ตั้งอย่างโดดเด่นเท่านั้น