จางเชียน (Zhang Qian: 张骞) ขุนนางนักการทูตชาวจีนในสมัยราชวงศ์ฮั่น จางเชียนเข้ารับราชการในรัชศกฮั่นอู่ตี้ เขาได้รับมอบหมายให้ออกเดินทางไปยังดินแดนอันห่างไกลทางตะวันตกของจีน โดยเป็นหนึ่งในคณะทูตกลุ่มแรกที่เดินทางไปทำการแลกเปลี่ยนกับเอเชียกลางและโลกตะวันตก


จางเชียน (Zhang Qian: 张骞)

การรุกรานชายแดนจีนของเผ่าซงหนูสร้างความเสียหายแก่ราชวงศ์ฮั่นมาอย่างยาวนาน ฮั่นอู่ตี้จึงส่งจางเชียนไปทำหน้าที่ทูตเจริญสัมพันธไมตรีกับแคว้นรอบข้างเพื่อหาทางจัดการเผ่าซงหนู แต่เมื่อออกจากชายแดนคณะของจางเชียนถูกเผ่าซงหนูจับกุมและส่งไปใช้แรงงานเป็นเวลากว่า 11 ปี

ระหว่างถูกใช้แรงงานจางเชียนศึกษาภูมิศาสตร์ ภาษาและวัฒนธรรมของเผ่าซงหนูจนมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เขาแต่งงานกับบภรรยาชาวซงหนูและมีทายาทด้วยกัน จางเชียนใช้ชีวิตประหนึ่งชาวซงหนูจนได้รับความไว้วางใจและเมื่อสบโอกาสเหมาะเขาจึงหลบหนีออกจากเผ่าซงหนู

จางเชียนยังคงไม่ลืมหน้าที่ในการเป็นทูตไปเจริญสัมพันธไมตรี ทว่าแคว้นอื่นๆกลับรู้สึกพอใจกับสถานะความเป็นอยู่ในขณะนั้นจึงตอบปฏิเสธ จางเชียนจึงเดินทางกลับฉางอันด้วยความล้มเหลว

เมื่อ 119 ปีก่อนคริสตกาล จางเชียนได้รับมอบหมายให้นำคณะทูตออกเดินทางไปทางตะวันตกเพื่อทำการค้ากับเอเชียกลางและโลกตะวันตก เขาใช้ความรู้ที่สั่งสมมาสมัยถูกใช้แรงงานเปิดเส้นทางโดยเริ่มจากนครฉางอันผ่านฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงจักรวรรดิโรมัน

สินค้าสำคัญที่คณะของจางเชียนนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนได้แก่ ผ้าไหม แล้วจึงนำผลผลิตทางการเกษตรกลับสู่นครฉางอัน เส้นทางการค้าระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับเอเชียกลางและโลกตะวันตกที่เรียกกันในภายหลังว่า "เส้นทางสายไหม" (Silk Road: 絲綢之路) จึงถือกำเนิดขึ้น

จางเชียนเป็นวีรบุรุษผู้มีบทบาทสำคัญในการเปิดประเทศจีน ในบันทึกประวัติศาสตร์ที่เขียนโดย "ซือหม่าถัน" (Sima Tan: 司馬談) รายงานว่าภายหลังจางเชียนกลับจากการเดินทางครั้งสุดท้ายเมื่อ 115 ปีก่อนคริสตกาล เขาได้รับการยกย่องในฐานะ "ผู้ส่งสารที่ยิ่งใหญ่" และเสียชีวิตลงในปีต่อมา