สถานที่ท่องเที่ยวในปักกิ่ง
• พระราชวังฤดูร้อน: อุทยานหลวงสุดอลังการในสมัยพระนางซูสีไทเฮา ภายในพระราชวังฤดูร้อนมีทั้งส่วนที่เป็นเขา ทะเลสาบและสถาปัตยกรรมอันเป็นสวรรค์ของพระนางซูสีไทเฮา พระราชวังฤดูร้อน
必经地旅游网 |
• สวนเยว่ถาน: สวนสาธารณะท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น แบ่งพื้นที่ออกเป็นฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ในอดีตใช้เป็นสถานที่บูชาพระจันทร์ของจักรพรรดิสมัยราชวงศ์หมิงและชิง เปิดเป็นสวนสาธารณะเมื่อปี 1955
• พระราชวังต้องห้าม: พระราชวังสร้างเพื่อใช้เป็นที่ประทับและว่าราชการของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงถึงราชวงศ์ชิง แม้จะผ่านเวลาเนิ่นนานแต่พระราชวังยังคงเต็มไปด้วยมนต์ขลัง พระราชวังต้องห้าม
• สวนจงซาน: สวนสาธารณะตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.ซุนยัดเซ็น เคยใช้เป็นที่ตั้งแท่นบูชาของจักรพรรดิสมัยราชวงศ์หมิงและชิงเพื่อขอพรให้พืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ สวนจงซาน
CGTN |
• สวนจิ่งซาน: สวนสาธารณะทางเหนือของพระราชวังต้องห้าม สวนจิ่งซานเป็นอุทยานส่วนพระองค์สมัยราชวงศ์หยวน หมิงและชิง มีภูเขาห้าลูกที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเป็นจุดชมวิวสำคัญ สวนจิ่งซาน
• วัดจื้อฮว่า: สถาปัตยกรรมไม้โดดเด่นด้วยหลังคากระเบื้องที่เป็นสีดำ ภายในวัดเป็นที่ตั้งของประติมากรรมโบราณล้ำค่าสมัยราชวงศ์หมิงและวงดนตรีโบราณที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี วัดจื้อฮว่า
• อุทยานเป่ยไห่: อดีตพระราชวังฤดูหนาวของกุบไลข่านแห่งราชวงศ์หยวน ในอุทยานมีเจดีย์ขาวที่สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่องค์ดาไลลามะเสด็จเยือนกรุงปักกิ่งเป็นครั้งแรก อุทยานเป่ยไห่
• จัตุรัสเทียนอันเหมิน: จัตุรัสกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก รายลอบด้วยสถานที่สำคัญ ในทุกปีจะมีการย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จัตุรัสเทียนอันเหมิน
Visit Our China |
• หอสักการะฟ้าเทียนถาน: วิหารบวงสรวงในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมและการออกแบบภูมิทัศน์ที่มีอิทธิพลทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ่ง หอเทียนถาน
ภาพ: Randomwire |
• หอดูดาวกู่กวงเซี่ยงไถ: หอดูดาวโบราณสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1442 โดยมิชชันนารีชาวเบลเยี่ยมเพื่อใช้เป็นสถานที่ชมดวงดาวบนท้องฟ้า สะท้อนถึงความก้าวหน้าในงานด้านดาราศาสตร์ในสมัยโบราณ
• วัดลามะ: วัดทิเบตที่สวยที่สุดในเมือง ในอดีตใช้เป็นตำหนักของจักรพรรดิยงเจิ้งช่วงที่ยังดำรงตำแหน่งอ๋อง แต่หลังจากขึ้นครองราชย์แล้วจึงดัดแปลงเป็นวัดของลามะจากทิเบตและมองโกล วัดลามะ
• วัดหงหลัว: วัดพุทธสมัยราชวงศ์จิ้นตะวันออก ผ่านการบูรณะและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้งโดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์หมิง มีชื่อเสียงในเรื่องดงไผ่ ต้นแปะก๊วยและรูปปั้นอรหันต์ขนาดเท่าตัวจริง วัดหงหลัว
• วัดข่งเมี่ยวกับวิทยาลัยหลวงกรุงปักกิ่ง: วัดขงจื๊อใช้เป็นสถานที่สักการะขงจื๊อเพื่อชีแนะแนวทางการปกครอง ส่วนวิทยาลัยหลวงถูกดัดแปลงเป็นหอสมุด มีแผ่นศิลาที่จารึกคัมภีร์ของขงจื๊อเก็บเอาไว้
• สะพานว่านหนิง: สะพานหินโค้งเดียวสภาพค่อนข้างเก่าสร้างในสมัยราชวงศ์หยวน สะพานว่านหนิงเรียกอีกชื่อว่า "สะพานประตูหลัง" เนื่องจากตั้งอยู่ทางเหนือของประตูหลังเมืองหลวง สะพานว่านหนิง
• หอกลอง: หอกลองใช้ตีบอกเวลาและผลัดเปลี่ยนเวรยามในสมัยโบราณ สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยกุบไลข่าน ส่วนหอที่เห็นอยู่ในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี 1420 ในสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อ หอกลอง
• หอระฆัง: หอระฆังใช้ตีบอกเวลาสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยกุบไลข่าน ส่วนหอระฆังที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่แทนหอเดิมที่ถูกเพลิงไหม้ ภายในมีระฆังใบใหญ่น้ำหนักถึง 63 ตัน หอระฆัง
• วัดเมี่ยวอิ้ง: วัดนิกายหมวกเหลืองสร้างในสมัยกุบไลข่าน ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ มีเจดีย์สีขาวองค์ใหญ่ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมทิเบตบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วัดเมี่ยวอิ้ง
• วัดเมฆขาว: อดีตศูนย์กลางลัทธิเต๋าในเขตภาคเหนือ เคยถูกใช้เป็นพระราชวังของเจงกิสข่าน แต่ต่อมาเจงกิสข่านประทานให้นักพรตและกลายมาเป็นศาสนสถานสำคัญในลัทธิเต๋านับแต่นั้นมา วัดเมฆขาว
• วัดฝ่าหยวน: วัดฝ่าหยวนซื่อสร้างในสมัยราชวงศ์ถังเพื่ออุทิศแด่ทหารกล้าผู้สละชีพในสงคราม อาคารภายในวัดถูกสร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันกลายเป็นสถานศึกษาพุทธศาสนาสำหรับพระภิกษุ
• พระราชวังฤดูร้อนเก่า: พระราชวังสร้างในรัชสมัยจักรพรรดิคังซี มีการสร้างสวนสไตล์ยุโรปขึ้นในบริเวณพระราชวังทำให้กลายเป็นแหล่งผสมระหว่างสถาปัตยกรรมจีนกับตะวันตก พระราชวังฤดูร้อนเก่า
• วัดหลิงกวง: วัดแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ประดิษฐาน "พระเขี้ยวแก้ว" โดยภิกษุฟาเซียนไปอัญเชิญมาประดิษฐานเอาไว้ที่ประเทศจีน พระเขี้ยวแก้วประดิษฐานอยู่ในเจดีย์สูง 13 ชั้น วัดหลิงกวง
ภาพ: Bridget Coila |
• อุทยานเขาหอม: สวนสาธารณะบนพื้นที่กว้างขวางและบรรยากาศร่มรื่นไปด้วยพืชพันธุ์ ในอุทยานมีสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงามและสถาปัตยกรรมโบราณ บนยอดเขาเป็นจุดชมวิวที่สำคัญของกรุงปักกิ่ง
• วัดว่อฝอซื่อ: วัดพระพุทธไสยาสน์สร้างในสมัยราชวงศ์ถัง สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางนอนองค์ใหญ่น้ำหนักกว่า 54 ตัน สลักลวดลายงดงามโดยช่างฝีมือดีกว่าเจ็ดพันคนที่อุทิศตัวจนสร้างผลงานชิ้นนี้สำเร็จ
• สะพานมาร์โกโปโล: สะพานหินทอดข้ามแม่น้ำหย่งติ้ง ผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรม เรียกชื่อตามนักสำรวจชาวอิตาลีที่เดินทางมาประเทศจีนแล้วชื่นชมความสวยงามของสะพาน สะพานมาร์โกโปโล
• วัดต้าเจวี๋ย: อารามซ่อนอยู่ลึกในเนินเขา ภายในวัดต้าเจวี๋ยมีต้นแมกโนเลียโบราณและต้นแปะก๊วยที่ถูกขนานนามว่า "ราชาแปะก๊วย" ชาวเมืองจะมาดื่มด่ำบรรยากาศและใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ วัดต้าเจวี๋ย
• สุสานราชวงศ์หมิง: สุสานหลวงสร้างเพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บพระศพจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิจีนเอาไว้อย่างชัดเจน สุสานราชวงศ์หมิง
• กำแพงเมืองจีนด่านเจี้ยนโค่ว: แนวกำแพงเมืองจีนทอดยาวผ่านเนินเขา ด่านเจี้ยนโค่วตั้งอยู่บนสันเขาสูงชัน ขึ้นชื่อในทัศนียภาพภูเขาและภูมิประเทศที่ท้าทาย กำแพงเมืองจีนด่านเจี้ยนโค่ว
China Daily |
• แหล่งโบราณคดีมนุษย์ปักกิ่ง: พิพิธภัณฑ์มรดกโลกในเขตโจวโข่วเตี้ยน แหล่งขุดค้นพบเครื่องใช้และฟอสซิลบริเวณถ้ำที่เคยเป็นถิ่นอาศัยของมนุษย์ปักกิ่งในช่วง 18,000-11,000 ปีก่อนคริสตกาล