สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มีเหลือไว้เพียงเศษเสี้ยวของความทรงจำนอกจากหอลอยแห่งบาบิโลนที่เราเคยนำเสนอกันไปแล้ววันนี้เราไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งแห่งนั่นก็คือ "ประภาคารฟาโรแห่งอเล็กซานเดรีย" อีกหนึ่งผลงานที่น่าภาคภูมิใจชาวอียิปต์
ตามหลักฐานที่สามารถยืนยันได้บันทึกไว้ว่าประภาคารฟาโรสแห่งอเล็กซานเดรีย (Pharos of Alexandria, Lighthouse of Alexandria) เป็นประภาคารหินอ่อนโบราณบนเกาะฟาโรสในเมืองอเล็กซานเดรีย โครงสร้างหินอ่อนสีขาวถูกสลักด้วยลวดลายอันวิจิตรงดงาม
ประภาคารแห่งอเล็กซานเดรียสร้างในสมัย "พระเจ้าปโตเลมีที่ 1" (Ptolemy I) โดยสถาปนิก "โซสตราโทส" (Sostrates) ที่แอบสลักชื่อของตัวเองเอาไว้ในผลงานหลังจากถูก "พระเจ้าปโตเลมีที่ 2" (Ptolemy II) ปฏิเสธที่จะให้เขามีชื่อในผลงานอันยิ่งใหญ่นี้
การก่อสร้างประภาคารใช้เวลากว่า 20 ปี บนยอดมีตะเกียงขนาดใหญ่ซึ่งสันนิษฐานว่าเอาไว้ปล่อยควันในเวลากลางวันและใช้เป็นจุดส่องสว่างในเวลากลางคืนจนสามารถมองเห็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างชัดเจน แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคนโบราณใช้วิธีการใดในการจุดไฟส่องสว่าง
ประภาคารถูกสร้างเป็นรูปทรงกระบอกมีความสูงประมาณ 400 ฟุต นับว่าสูงเป็นอันดับสองในบรรดาสิ่งก่อสร้างยุคโบราณรองจากมหาพีระมิดซึ่งอยู่ในอียิปต์เช่นเดียวกัน ภายในมีบันไดวนเป็นทางขึ้นสู่ส่วนยอดของประภาคารซึ่งมีรูปสลักของเทพเจ้าแต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นเทพเจ้าองค์ใด อาจเป็นโพเซย์ดอน ซีอุส หรือกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช
ความงดงามและยิ่งใหญ่ของประภาคารสิ้นสุดลงหลังพังทลายอย่างราบคาบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อช่วงศตวรรษที่ 13 หลังจากที่ประภาคารตั้งตระหง่านมานานถึง 1,600 ปี เหลือเพียงหลักฐานบางส่วนที่เชื่อกันว่าเป็นเศษซากของประภาคาร แต่ถึงอย่างนั้นประภาคารแห่งนี้ก็ยังได้รับการยกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ