หวังเจาจวิน (Wang Zhaojun: 王昭君) หญิงงามในประวัติศาสตร์จีนผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ประมาณ 50 ปีก่อนสริสต์ศักราช) หวังเจาจวินได้รับการยกย่องในเรื่องความงามว่าเป็นหนึ่งในสี่ยอดหญิงงามที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์จีน


หวังเจาจวิน (Wang Zhaojun: 王昭君)

หวังเจาจวินเกิดในครอบครัวฐานะมั่งคั่งจึงได้รับการศึกษาอย่างดี (แม้ว่าจะเป็นสตรี) นางมีชื่อเดิมว่า "หวังเฉียน" (Wang Qiang: 王牆) สัญลักษณ์ประจำตัวนาง คือ "ผีผา" เครื่องดนตรีที่นางสามารถเล่นได้อย่างไพเราะกินใจ

รูปโฉมความงามของหวังเจาจวินถูกเปรียบเอาไว้ว่า "ปักษีตกนภา" (Wang Zhaojun Entice Birds Falling: 落雁) หมายถึง ความงามที่ทำฝูงนกซึ่งบังเอิญบินผ่านมาแล้วได้ยินเสียงเพลงที่นางร้องจึงหันไปมอง เมื่อประสบกับความงามของนางฝูงนกถึงกับตะลึงจนลืมบินทำให้ร่วงลงมาบนพื้น

เมื่อเข้าสู่วัยสาวสะพรั่ง หวังเจาจวินถูกคัดเลือกเข้าไปในวังเพื่อถวายตัวแก่ "จักรพรรดิฮั่นหยวนตี้" โดยตามธรรมเนียมแล้วฮ่องเต้จะคัดเลือกสาวงามจากภาพวาดที่ถูกส่งเข้ามา แต่การที่หวังเจาจวินไม่ยอมให้สินบนแก่จิตรกร ภาพของนางจึงผิดเพี้ยนต่างไปจากความจริงจนทำให้นางไม่ได้รับคัดเลือก

หวังเจาจวินต้องใช้ชีวิตอย่างอับเฉาอยู่ในวังโดยไม่ได้รับความสนใจ กระทั่ง "หูฮันเซีย" แห่งเผ่าซงหนูมาเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีตามธรรมเนียมและขอพระราชทานธิดาจากฮ่องเต้ไปเป็นภรรยา ทว่าฮั่นหยวนตี้คิดว่าซงหนูเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนจึงไม่ได้พระราชทานธิดาตามที่ขอ แต่ให้เลือกสาวในวังที่สมัครใจไปแทนโดยแกล้งบอกว่าเป็นธิดาของตน

หวังเจาจวินคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะไม่ต้องทนทุกข์อยู่ในวังต่อไปนางจึงเสนอตัวเดินทางไปยังเผ่าซงหนู โดยก่อนออกเดินทางหวังเจาจวินจะต้องเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่ออำลาจึงทำให้นางได้พบฮั่นหยวนตี้เป็นครั้งแรก

เมื่อฮั่นหยวนตี้ได้เห็นหวังเจาจวินผู้มีรูปโฉมงดงามจึงเกือบจะเปลี่ยนใจ แต่ในฐานะฮ่องเต้เมื่อลั่นวาจาไปแล้วจะต้องเป็นไปตามนั้น ภายหลังหวังเจาจวินออกเดินทางไปแล้วฮั่นหยวนตี้ยังคงรู้สึกเสียดายจึงกลับมาดูภาพของนางอีกครั้งและพบว่ามันไม่ตรงกับความเป็นจริงจึงเรียกตัวจิตรกรมาลงโทษประหาร

แม้ซงหนูจะเป็นชนเผ่าที่ด้อยอารยธรรมกว่า แต่หวังเจาจวินได้รับการดูแลอย่างดีจนกระทั่งมีทายาท ทว่าเหตุการณ์ที่นางไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อหูฮันเซียถึงแก่กรรมและหวังเจาจวินได้ยื่นฎีกามายังราชสำนักเพื่อขอให้เรียกตัวกลับ ทว่านางถูกปฏิเสธ

หวังเจาจวินต้องยอมทำตามธรรมเนียมของเผ่าซงหนูโดยการเป็นภรรยาของหัวหน้าเผ่าคนต่อไปซึ่งก็คือพี่ชายคนโตของหูฮันเซียจนมีทายาทด้วยกัน

หวังเจาจวินได้แต่รำพันคิดถึงบ้านเกิดที่พรากจากมานานหลายปีแต่ไม่สามารถกลับไปได้ ไม่รู้ว่านางใช้ชีวิตต่อไปและจบชีวิตลงอย่างไร แต่สุสานหวังเจาจวินตั้งอยู่ที่ "เมืองฮูฮอต" เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน โดยสุสานของนางได้รับการคุ้มครองและถูกยกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 4A

มีเรื่องเล่าว่าหวังเจาจวินตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงหลังจากลูกชายของนางได้ขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่า นางถามลูกชายว่าจะเลือกทำตามธรรมเนียมซงหนูหรือไม่ซึ่งคำตอบของลูกชาย คือ "ใช่’" นางจึงยอมจบชีวิตลงเพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนสถานจะจากแม่กลายเป็นเมียของลูกชายตัวเอง...