明慧网 |
งักฮุยเกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 1103 ในครอบครัวสามัญชนซึ่งช่วงนั้นตรงกับสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ ชีวิตของท่านต้องเผชิญกับความลำบากมาตั้งแต่เด็กโดยเฉพาะภาวะสงครามกับกองทัพจินที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังดีที่ท่านมีมารดาเป็นเสาหลักที่ช่วยค้ำยันครอบครัวเอาไว้
การล่มสลายของราชวงศ์ซ่งเหนือที่พ่ายแพ้ต่อจินทำให้งักฮุยตัดสินใจเข้ารับใช้ชาติกับราชวงศ์ซ่งใต้ในสมัยของซ่งเกาจง โดยก่อนที่จะเดินทางไปเป็นทหารนั้นมารดาของท่านได้สลักอักษร 4 ตัวไว้ที่กลางแผ่นหลังเพื่อให้ท่านได้ระลึกถึงความจงรักภักดีเสมอ
งักฮุยมีจิตใจอันมุ่งมั่นแน่วแน่บวกกับความสามารถที่โดดเด่นเหนือทหารทั่วไปทำให้เป็นที่พอใจของแม่ทัพจงเจ๋อยิ่งนักถึงขนาดถ่ายทอดวิชาความรู้ให้จนหมดสิ้น เมื่อแม่ทัพจงเจ๋อจบชีวิตลงงักฮุยจึงได้ขึ้นเป็นแม่ทัพคนใหม่อย่างไร้ข้อกังขาและสร้างผลงานจนนามของท่านถูกกล่าวขานไปทั่วแผ่นดิน
ความยิ่งใหญ่ของท่านงักฮุยไม่เพียงแค่เป็นผลจากความยำเกรงของข้าศึกเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการที่ท่านสามารถเอาชนะใจประชาชนได้โดยเฉพาะในเรื่องของความซื่อสัตย์และความเข้มงวดต่อทหารในกองทัพ ผู้คนทั่วไปจึงรู้สึกศรัทธาในตัวท่านมาก
กองทัพงักฮุยที่แสนเกรียงไกรไม่ว่าจะรบรากับจินกี่คราก็ได้รับชัยชนะทำให้พื้นที่แถบชายแดนนั้นมีความมั่นคง แต่แล้วความยิ่งใหญ่นั้นก็ต้องยุติลงด้วยน้ำมือของ ‘ฉินฮุ่ย’ ขุนนางกังฉินที่คอยยั่วยุและใส่ร้ายงักฮุยต่างๆนานาจนซ่งเกาจงหลงเชื่อแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานบ่งชี้ได้ว่างักฮุยมีความผิด
แม่ทัพงักฮุยได้โองการเรียกตัวกลับเมืองหลวง ท่านรู้ดีว่าเหตุการณ์เบื้องหน้านั้นร้ายมากกว่าดีแต่ก็ไม่คิดหนีเพราะยึดมั่นในความจงรักภักดีต่อองค์ฮ่องเต้ เมื่องักฮุยเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงก็เป็นช่วงเวลาสุดท้ายของท่านกังที่คิดเอาไว้ งักฮุยถูกฉินฮุ่ยระดมใส่ร้ายจนท่านถูกสั่งให้ประหารชีวิตไปพร้อมกับบุตรชายและทหารคนสนิท
เดิมทีนั้นร่างของท่านถูกนำไปฝังไว้ที่อื่นแต่หลังจากความบริสุทธิ์ของท่านถูกเปิดเผยออกมาหลังจากนั้นอีก 20 ปี จักรพรรดิซ่งเกาจงจึงบัญชาให้สร้างศาลเจ้างักฮุยขึ้นมาเพื่อยกย่องถึงความจงรักภักดีของท่านไว้ที่ริมทะเลสาบซีหูในเมืองหังโจวโดยในสุสานของท่านมีรูปปั้นฉินฮุ่ยและภรรยานั่งคุกเข่าอยู่