พระเจ้าชางโจ้ว (King Zhou of Shang: 紂王) กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชาง "พระเจ้าชางโจ้ว" หรือ "โจ้วหวาง" เกิดเมื่อ 1105 ปีก่อนคริสตศักราช ขึ้นครองราชย์เมื่อ 1075 ปีก่อนคริสตกาลและสร้างความยิ่งใหญ่จนราชวงศ์ชางเป็นที่เกรงขาม ทว่าสุดท้ายแล้วราชวงศ์ชางก็ต้องถึงคราวล่มสลายลง
ตามข้อมูลที่มีการบันทึกเอาไว้ใน "สื่อจี้" (บันทึกประวัติสาสตร์อันยิ่งใหญ่ โดย ซือหม่าเชียน) กล่าวว่าเดิมทีนั้นโจ้วหวางเป็นกษัตริย์ที่ปรีชาสามารถมาก กระทั่งถึงปลายรัชการโจ้วหวางกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนโดยมีการกล่าวโทษว่าสาเหตุนั้นเป็นเพราะความหลงใหลที่มีต่อสนมเอกต๋าจี่
"ตำนานเกี่ยวกับโจ้วหวางและสนมต๋าจี่กล่าวเอาไว้ว่า ครั้งหนึ่งโจ้วหวางเดินทางไปสักการะเจ้าแม่หนี่วาและเผลอกระทำการอันเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นทำให้เจ้าแม่หนี่วาโกรธจึงส่งปีศาจจิ้งจอกมาลงโทษโดยปีศาจจิ้งจอกได้มาเข้าสิงร่างของสนมต๋าจี่และยั่วยวนจนโจ้วหวางไม่สนใจกิจการบ้านเมือง"
โจ้วหวางหลงใหลสนมต๋าจี่ราวกับตกอยู่ในมนต์สะกด ไม่ว่าต๋าจี่ปรารถนาสิ่งใดโจ้วหวางก็จัดให้ไม่ขาดตกบกพร่องถึงขนาดสร้าง "สระสุราป่าเนื้อ" (Pond of Wine and Forest of Meat: 酒池肉林) ซึ่งเป็นสระสุราขนาดใหญ่จนสามารถนำเรือลงไปล่องได้หลายรำ รวมทั้งยังให้สร้าง "เสานาบ" (Cannon Burning Punishment: 炮烙之刑) ซึ่งเป็นเสาสำริดขนาดใหญ่ ข้างในใส่ถ่านติดไฟเพื่อนำร่างของนักโทษมานาบพร้อมส่งเสียงร้องอย่างทรมาน
พฤติกรรมอันเสื่อมทรามของโจ้วหวางสร้างความไม่พอใจแก่บรรดาขุนนางตงฉินและราษฎรทั่วหล้า กษัตริย์ผู้เก่งกล้ากลายสภาพเป็นทรราชที่ลุ่มหลงอยู่ในกามโลกีย์ บ้านเมืองขาดเสถียรภาพ เงินในคลังถูกถลุงไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย ราชวงศ์โจวมองเห็นโอกาสเหมาะจึงเปิดศึกเต็มรูปแบบที่รู้จักกันในชื่อ "ยุทธการมู่เหย่" (Battle of Muye: 牧野之战) โดยผลการต่อสู้จบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างราบคาบของราชวงศ์ชาง
ชัยชนะและแรงสนับสนุนจากราษฎรทำให้ราชวงศ์โจวสถาปนาขึ้นปกครองแผ่นดินจีน ส่วนโจ้วหวางที่กำลังจนตรอกและแตกกระเจิงจนไม่มีที่ให้หนีจึงตัดสินใจจบชีวิตตนเองอย่างน่าอนาถท่ามกลางเปลวเพลิง ราชวงศ์ชางที่เคยยิ่งใหญ่จึงเป็นอันจบสิ้นลงเมื่อ 1046 ปีก่อนคริสตกาล ปิดตำนานหนึ่งในกษัตริย์ผู้เสื่อมทรามที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์จีน