ภาพ: Quora |
อันลู่ซานเป็นที่โปรดปราณของ ‘จักรพรรดิถังเสวียนจง’ และ ‘เสนาบดีหลี่หลินฝู่’ เขาถูกเรียกตัวเข้านครหลวงฉางอานอยู่บ่อยครั้ง มีเรื่องเล่าว่าเมื่อสนมหยางกุ้ยเฟยได้เห็นความองอาจผึ่งผายของอันลู่ซานจึงรับเป็นบุตรบุญธรรม แม้ว่าอันลู่ซานจะมีอายุมากกว่านางหลายปี แล้วสัมพันธ์สวาทระหว่างแม่ลูกบุญธรรมคู่นี้ก็เริ่มขึ้น
ภายใต้การสนับสนุนของเสนาบดีหลี่หลินฝู่ อันลู่ซานกลายเป็นผู้กุมอำนาจทางการทหารในพื้นที่ชายแดนทางภาคเหนือจนหมดสิ้น แต่หลังจากสิ้นเสนาบดีหลี่หลินฝู่อำนาจทางการทหารของอันลู่ซานก็เริ่มสั่นคลอนเมื่อ ‘แม่ทัพเกอซูฮั่น’ และ ‘เสนาบดีหยางกว๋อจง’ กระโดดร่วมวงแย่งชิงอำนาจด้วย
ในปลายรัชสมัยจักรพรรดิถังเสวียนจง เสนาบดีหยางกว๋อจงซึ่งเป็นญาติผู้พี่ของสนมหยางกุ้ยเฟยเกรงว่าอันลู่ซานจะมีอำนาจยิ่งใหญ่เกินกว่าตนเองจึงเริ่มมาตรการลดทอนอำนาจของอันลู่ซาน แต่สิ่งที่เสนาบดีหยางกว๋อจงทำลงไปกลับกลายเป็นการกระตุ้นให้อันลู่ซานเหิมเกริมมากยิ่งขึ้น
16 ธันวาคม 755 เปลวไฟแห่งการก่อกบฏที่รู้จักกันในชื่อ ‘กบฏอันลู่ซาน’ เริ่มต้นขึ้น กระทั่งประกาศตั้งตนเป็นจักรพรรดิสถาปนาราชวงศ์เยี่ยนปกครองดินแดนทางเหนือของจีนในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 756 เมืองหลวงคือ ลั่วหยาง ทว่าอาการบาดเจ็บเรื้อรังจากการกรำศึกที่ผ่านมาทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ
ชนวนการแต่งตั้ง ‘อันชิ่งเอิน’ บุตรชายภรรยารองขึ้นเป็นรัชทายาททำให้ ‘อันชิ่งซู่’ บุตรชายซึ่งควรได้รับตำแหน่งนี้เกิดความหวาดระแวงว่าบิดาจะหมายชีวิตตนเมื่อใด กระทั่ง 29 มกราคม 757 อันชิ่งซูทนต่อไปไม่ไหวจึงลงมือลอบสังหารอันลู่ซานแล้วขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์สืบต่อ อันลู่ซานจึงต้องจบชีวิตลงโดยเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง