ภาพ: Queen For Seven Days |
เรื่องราวของจางนกซูมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับ "ชองนานจอง" และ "พระนางชังฮีบิน" ในฐานะสามสตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งยุคโชซอน
จางนกซูเป็นบุตรสาวของ "จางฮันพิล" แม้บิดาจะเป็นขุนนางรับใช้ราชสำนัก แต่การเป็นเพียงลูกนอกสมรสที่เกิดจากนางโลมทำให้สถานะทางสังคมของนางต่ำต้อยไปด้วย จางนกซูผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาเริ่มเรียนรู้ศิลปะการขับร้องร่ายรำจนกลายเป็นกีแซงที่มีชื่อเสียง
แล้วสวรรค์ชั้นแรกก็ถึงเวลาเปิดออกเมื่อนางกลายเป็นที่โปรดปราณและได้เข้าไปแสดงความสามารถอยู่ในจวน "องค์ชายอีฮยอน" (เจอัน) ผู้มีศักดิ์เป็นอาขององค์ชายยอนซัน
สวรรค์สองเปิดเมื่อองค์ชายยอนซันได้พบจางนกซูในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในจวนองค์ชายอีฮยอนและรู้สึกถูกใจในความงามของนางยิ่งนักจึงขอนางมาจากองค์ชายอีฮยอนแล้วแต่งตั้งให้เป็นสนม
เมื่อมีทั้งหน้าตาและสถานะจนยากจะหาใครเทียบ จางนกซูเริ่มใช้มารยาควบคุมองค์ชายยอนซันเอาไว้ในกำมือ "ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้" กลายเป็นองค์ชายที่ลุ่มหลงมัวเมาอยู่ในสุรานารี ไม่สนใจบริหารบ้านเมือง
ใครก็ตามที่เห็นต่างไปจากนางจะต้องถูกกำจัด กลายเป็นการนองเลือดในราชสำนักและวังหลัง จนท้ายที่สุดเมื่อเหล่าขุนนางภักดีรู้สึกอดรนทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงพร้อมใจกันลุกฮือขึ้นยึดอำนาจ ปลดองค์ชายยอนซันกลายเป็นสามัญชนแล้วเนรเทศไปอยู่เกาะกังฮวา
ส่วนจางนกซูที่เคยเรืองรองอยู่ในวังถูกสำเร็จโทษด้วยการตัดศีรษะต่อหน้าธารกำนัลในปี 1506 ปิดตำนานสนมล่มบัลลังก์ไปอีกราย โดยมีการนำเรื่องราวของนางมาแสดงในโรงละครเล่าถึง "ซินเดอเรลล่า" แห่งยุคโชซอน...