ภาพ: นางพญาจอมราชันย์ |
เมื่อหวงไท่จี๋ขึ้นครองราชย์ ตัวเอ๋อร์กุ่นเริ่มขยายฐานอำนาจในกองทัพอย่างต่อเนื่อง เขานำทัพแมนจูเข้ายึดกรุงปักกิ่งได้สำเร็จ ปราบปรามกองทัพราชวงศ์หมิงและกลุ่มอื่นๆที่แสดงการต่อต้าน
ภายหลังหวงไท่จี๋สวรรคตโดยไม่ได้ตั้งรัชทายาท เกิดการแย่งชิงบัลลังก์ของเหล่าเชื้อพระวงศ์ แม้ตัวเอ๋อร์กุ่นปรารถนาบัลลังก์แต่ด้วยสถานะจึงไม่อาจทำได้ เขาจึงหันไปสนับสนุน "องค์ชายฝูหลิน" โอรสองค์ที่ 9 ของหวงไท่จี๋ได้ขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิซุ่นจื้อด้วยวัยเพียง 7 ปี
ตัวเอ๋อร์กุ่นได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จราชการของจักรพรรดิซุ่นจื้อภายใต้ฐานันดร์ศักดิ์ "พระเจ้าอาผู้สำเร็จราชการ" แล้วจึงขยับขึ้นเป็น "พระบิดาผู้สำเร็จราชการ" ตามลำดับ
ตัวเอ๋อร์กุ่นเริ่มบังคับให้ชาวฮั่นทั้งหมดโกนศีรษะด้านหน้าและไว้เปียตามแบบฉบับชาวแมนจู ทว่าแนวทางการปกครองหลายอย่างของเขาขัดแย้งกับจักรพรรดิซุ่นจื้อที่เจริญวัยขึ้น ความสัมพันธ์เต็มไปด้วยความระหองระแหง แต่จักรพรรดิซุ่นจื้อยังคงไม่สามารถหลุดจากอิทธิพลของตัวเอ๋อร์กุ่นได้
ตัวเอ๋อร์กุ่นได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนเสียชีวิตขณะออกล่าสัตว์เมื่อ 31 ธันวาคม 1650 เขาได้รับการยกฐานะย้อนหลังเทียบเท่าจักรพรรดิว่า "จักรพรรดิอี้" (Emperor Yi: 義皇帝) ทว่าราวหนึ่งปีให้หลังจักรพรรดิซุ่นจื้อถอดยศของเขาออกและสั่งให้คนขุดร่างของเขาขึ้นมาโบยต่อหน้าสาธารณชนด้วยข้อหาหลายประการ
กระทั่งจักรพรรดิเฉียนหลงขึ้นครองราชย์จึงได้มีการประกาศล้างมลทินทั้งหมดของตัวเอ๋อร์กุ่นและคืนสถานะจักรพรรดิตามเดิม...