ทะเลสาบที่ถือว่าเป็นที่สุดของโลกต้องยกให้ "ทะเลสาบเดดซี" (Dead Sea) ความเป็นสุดยอดนี้ไม่ใช่เรื่องของความสวยงามแต่เป็นทะเลที่มีความเค็มที่สุดในโลกจนมีชื่อเรียกว่า "ทะเลเกลือ" หรือ "ทะเลมรณะ" เพราะสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ในน้ำได้


ทะเลสาบเดดซี (Dead Sea)

เดดซีเป็นทะเลปิด มีพื้นที่ประมาณ 810 ตารางกิโลเมตร สถานที่ตั้งอยู่คาบเกี่ยวพรมแดนประเทศจอร์แดนและประเทศอิสราเอล ณ จุดที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางราว 400 เมตรซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของโลกทำให้แร่ธาตุจากบริเวณรอบไหลมารวมกันจนน้ำมีความเข้มข้นของเกลือสูงจนสามารถพยุงร่างกายมนุษย์ให้ลอยได้

สำหรับชาวอาหรับจะเรียกทะเลเดดซีว่า "อัลบาห์รัลไมยิต" หมายถึง "ทะเลแห่งความตาย" น้ำในเดดซีมีความเค็มจัดจนสิ่งมีชีวิตทั่วไปไม่สามารถอาศัยอยู่ได้นอกจากแบคทีเรียและสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กมากซึ่งเพิ่งมีการค้นพบเมื่อไม่นานมานี้

บริเวณชายฝั่งจะเต็มไปด้วยตะกอนที่เกิดจากความร้อนของดวงอาทิตย์แผดเผาทำให้น้ำในทะเลระเหยเป็นไอเหลือไว้เพียงเกลือแร่และแร่ธาตุที่ทับถมขึ้นเรื่อยๆดังที่เห็นเป็นก้อนสีขาวๆนั่นเอง

แร่ธาตุเข้มข้นนานาชนิดจากบริเวณโดยรอบที่ไหลมาทับถมกันทำให้เดดซีเป็นแหล่งแร่ธาตุที่สำคัญโดยเฉพาะโคลนเดดซีที่มีสรรพคุณในการดูแลสารพัดปัญหาผิว นักท่องเที่ยวจำนวนมากมุ่งหน้าไปยังเดดซีเพราะเชื่อว่าการได้แช่น้ำในทะเลสาบและการพอกผิวด้วยโคลนบริเวณชายหาดจะทำให้สุขภาพดี แล้วก็ยังมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจำนวนมากที่ใช้ประโยชน์จากโคลนเดดซี

ในแต่ละวันน้ำในทะเลจะระเหยอย่างรวดเร็วด้วยสภาพอากาศที่ร้อนและบางส่วนยังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมทำให้ระดับน้ำลดลงประมาณปีละ 30 เซนติเมตร นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปน้ำในเดดซีจะแห้งสนิทในปี 2050 วิธีแก้ไขไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นคือการขุดคลองยาว 200 กิโลเมตรเชื่อมต่อกับทะเลแดงเพื่อเพิ่มระดับน้ำให้สมดุลกับปริมาณน้ำที่สูญเสียไปซึ่งต้องใช้งบประมาณมหาศาลเลยทีเดียว