ภาพ: จอมนางชิงบัลลังก์ |
โจวย่าฟูเป็นบุตรชายของโจวปั๋ว (อัครมหาเสนาบดีผู้มีส่วนร่วมในการสถาปนาราชวงศ์ฮั่นของหลิวปัง) ไม่ปรากฏช่วงเวลาเกิด เขาได้รับโอกาสเข้ารับราชการจากความดีความชอบของบิดาและสามารถสร้างผลงานจนเป็นที่ประจักษ์ภายในเวลาอันรวดเร็ว
ไม่เพียงแค่ความจงรักภักดี แต่ความเข้มงวดมีระเบียบวินัยโดยไม่ย่อหย่อนของโจวย่าฟูทำให้เป็นที่ถูกพระทัยของจักรพรรดิฮั่นเหวินอย่างมาก ในหน้าประวัติศาสตร์เองก็ยกย่องว่าเขาเป็นแบบอย่างที่ดีของแม่ทัพผู้มีระเบียบวินัย รวมทั้งมีความชาญฉลาดในการเลือกใช้กลยุทธ์ทางการทหารอย่างเหมาะสม
ภายหลังจักรพรรดิฮั่นเหวินสวรรคต จักรพรรดิฮั่นจิงขึ้นครองราชย์โดยต้องเผชิญกับสถานการณ์สุดเลวร้ายเมื่อบรรดาผู้นำเจ็ดแคว้นพร้อมใจลุกฮือขึ้นก่อกบฎหมายแย่งชิงบัลลังก์ โจวย่าฟูได้รับบัญชาให้นำทัพออกไปปราบกบฏซึ่งมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งกว่ากองทัพของราชสำนักหลายเท่า
ด้วยประสบการณ์อันโชกโชนทำให้โจวย่าฟูเลือกใช้ยุทธวิธีรับโดยไม่รุก เขาตระหนักดีว่ากองทัพกบฎแข็งแกร่งแต่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากราษฎร สุดท้ายทัพกบฎจึงต้องถอยร่นกลายเป็นโอกาสให้โจวย่าฟูนำทัพหลวงรุกโจมตีจนกบฎแตกพ่าย บัลลังก์ราชวงศ์ฮั่นจึงกลับมามั่นคงอีกครั้ง
โจวย่าฟูเป็นเสาหลักของราชวงศ์จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ 143 ปีก่อนคริสตกาล แม้จะสร้างคุณงามความดีเอาไว้มากมาย แต่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาก็ไม่ต่างจากขุนนางภักดีหลายต่อหลายคนในหน้าประวัติศาสตร์ที่ต้องเผชิญชะตากรรมรันทดจากการที่ผู้เป็นนายเหนือหัวต้องการกำจัดเขาทิ้ง...