ภาพ: ฌ้อปาอ๋อง ศึกแผ่นดินไม่สิ้นแค้น |
เซี่ยงอวี่เกิดมาพร้อมชาตะของผู้ยิ่งใหญ่ ในวัยเด็กเขาปฏิเสธการร่ำเรียนตำรับตำราแต่เลือกที่จะฝึกฝนวิชาการต่อสู้เพื่อสยบข้าศึกให้ศิโรราบด้วยกำลัง กล่าวกันว่าเซี่ยงอวี่มีพละกำลังมหาศาลเหนือคนทั่วไป สามารถยกกระถางธูปน้ำหนักกว่าร้อยกิโลกรัมขึ้นไว้เหนือศีรษะได้
เซี่ยงอวี่เป็นกำลังหลักในการต่อกรกองทัพราชวงศ์ฉินของทัพเซี่ยงเหลียง ภายหลังเซี่ยงเหลียงเสียชีวิตเซี่ยงอวี่จึงขึ้นมาเป็นผู้นำโดยมีฟ่านเจิงที่เขาให้ความเคารพเสมือนบิดาเป็นที่ปรึกษา ไม่นานชื่อเสียงของทัพเซี่ยงอวี่ก็ระบือไกลกลายเป็นกองกำลังกบฏที่แข็งแกร่งที่สุด
ทัพเซี่ยงอวี่ตัดสินใจร่วมมือเป็นพันธมิตรกับทัพหลิวปังที่เริ่มสร้างผลงานจนมีชื่อเสียง แม้เซี่ยงอวี่จะได้รับคำเตือนจากฟ่านเจิงให้สังหารหลิวปังในงานเลี้ยงที่หงเหมิน แต่เซี่ยงอวี่ชะล่าใจและปล่อยให้หลิวปังมีชีวิตรอดกลับออกไปได้
เมื่อครั้งที่เซี่ยงอวี่นำทัพเข้าประชิดเมืองเสียนหยาง (เมืองหลวงราชวงศ์ฉิน) แม้จะมีกำลังรบน้อยกว่าหลายเท่าแต่เขาสามารถนำทัพต่อสู้จนได้รับชัยชนะ ทว่าเมื่อยกขบวนเข้าเมืองเสียนหยางกลับพบกองทัพหลิวปังรออยู่ก่อนแล้ว เซี่ยงอวี่โกรธมากจึงสถาปนาตนเองว่า "ซีฉู่ป้าหวาง" (西楚霸王) หรือ "ฌ้อปาอ๋อง" หมายถึง "อ๋องผู้ยิ่งใหญ่" ส่วนหลิวปังได้รับบรรดาศักดิ์ "อ๋อง"
ภายหลังเซี่ยงอวี่กับหลิวปังเกิดความขัดแย้งจนกลายมาเป็นสงครามฉู่ฮั่น จางเหลียงใช้อุบายทำให้เซี่ยงอวี่เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในตัวฟ่านเจิงจนยอดเสนาธิการเฒ่าที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาต้องเป็นฝ่ายเดินจากไป
ในยุทธการที่ไก่เซี่ยเมื่อ 202 ปีก่อนคริสตกาล เซี่ยงอวี่ถูกกองทัพหลิวปังไล่ต้อนจนไร้ทางหนี เขารู้ดีว่าจุดจบมาถึงแล้วจึงร่ำสุราและบอกลาสนมรักหยูจี เซี่ยงอวี่ลั่นกลองและร้องเพลงสุดท้ายที่เรียกว่า "เพลงแห่งไก่เซี่ย" (Song of Gaixia: 垓下歌) เพื่อแสดงความโศกเศร้าออกมาก่อนที่จะใช้ดาบปลิดชีพตัวเองลง...