สถาปัตยกรรมอันเลื่องชื่อที่อยู่คู่กับพระราชวังต้องห้ามกรุงปักกิ่งมาอย่างยาวนานและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของจีน หนึ่งในนั้นต้องกล่าวถึงพระราชวังฤดูร้อนแห่งกรุงปักกิ่ง วิมานสวรรค์ของพระนางซูสีไทเฮาในช่วงที่เรืองอำนาจ
พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) หรือ “อี๋เหอหยวน” (Yi He Yuan) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “พระราชวังฤดูร้อนและอุทยานในกรุงปักกิ่ง” ในปี 1998 จากองค์การยูเนสโก
อี๋เหอหยวนเริ่มสร้างในสมัยราชวงศ์จิน (บรรพบุรุษของชาวแมนจู) และได้รับการบูรณะเรื่อยมาจนกลายเป็นอุทยานที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลกในสมัยพระนางซูสีไทเฮาหลังจากที่ก่อนหน้านี้พระราชวังถูกทำลายเสียหายอย่างหนัก นับรวมเวลาที่ใช้ในการก่อสร้าง 14 ปี
อาณาเขตกว้างใหญ่ของพระราชวังฤดูร้อนครอบคลุมพื้นที่ราว 2.9 ตารางกิโลเมตร งบประมาณมหาศาลที่นำมาใช้สร้างก็นำมาจากงบของกองทัพเรือจึงสร้างความไม่พอใจแก่ขุนนางผู้รักชาติอย่างมากแต่มิอาจทำอะไรได้เพราะอำนาจของซูสีไทเฮาในตอนนั้นมีค้ำฟ้าเลยทีเดียว
ความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของพระราชวังฤดูร้อนคือการเนรมิตทะเลสาบคุนหมิงโดยเลียนแบบทะเลสาบคุนหมิงในมณฑลยูนนานขึ้นมาซึ่งต้องใช้แรงงานคนในการขุดพื้นจนกลายเป็นทะเลสาบและนำดินที่ขุดไปถมเป็นเนินเขาอันเป็นที่ตั้งของพระตำหนัก
ภายในพระราชวังมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญจำนวนมาก ทั้งพระที่นั่งเหรินโซวเตี้ยนอันเป็นสถานที่ออกว่าราชการ โรงงิ้วเต้อเหอหยวนอันเป็นสถานบันเทิงเพราะพระนางซูสีไทเฮาโปรดการแสดงงิ้ว สะพาน 17 โค้งทอดข้ามทะเลสาบคุนหมิง ตำหนักหยิงไถ่ซึ่งใช้เป็นสถานที่กักขังฮ่องเต้กวางสูที่พยายามปฏิรูปประเทศโดยการยึดอำนาจคืนจากพระนางซูสี แต่ไม่สำเร็จ และระเบียงฉางหลางที่ทอดยาวหลายร้อยเมตรตกแต่งด้วยภาพวาดดูแล้วเพลินตา