ทะเลสาบอีกหนึ่งแห่งของโลกที่มีความน่าสนใจไม่น้อยวันนี้เราพากันไปที่ทวีปอเมริกาใต้เพื่อพบกับทะเลสาบติติกากา ทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ อาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ 8,372 ตารางกิโลเมตร ที่นี่ท่านจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ด้วยกันกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์


ทะเลสาบติติกากา (Lake Titicaca)

ทะเลสาบติติกากา (Lake Titicaca) ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงเฉลี่ย 3,810 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับว่าสูงที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ คาบเกี่ยวระหว่างแคว้นปูโน (Puno) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเปรูและแคว้นลาปาซ (La Paz) ทางตะวันตกของประเทศโบลิเวีย ประกอบด้วยทะเลสาบย่อย 2 แห่งคือ ชูกุยโตหรือทะเลสาบใหญ่กับฮุยญายมาร์กาหรือทะเลสาบเล็กซึ่งเชื่อมกันด้วยช่องแคบตีกุยนา


ทะเลสาบติติกากา (Lake Titicaca)

น้ำปริมาณมหาศาลในทะเลสาบนั้นได้ 4 แหล่งหลักๆคือ น้ำฝน การละลายของธารน้ำแข็ง แม่น้ำหลัก 5 สาย และลำธารขนาดเล็กอีก 20 แห่ง แต่เส้นทางการไหลออกของน้ำกลับมีเพียงทางเดียวคือทางแม่น้ำริโอ เดอซากัวเดโร (Rio Desaguadero) ซึ่งสามารถระบายน้ำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำที่ไหลเข้า และบางส่วนก็ระเหยไปด้วยแสงแดดกับกระแสลม

ความน่าสนใจของทะเลสาบแห่งนี้อยู่ที่เกาะน้อยใหญ่ซึ่งเรียงรายกันอยู่หลายสิบเกาะ แต่ที่น่าสนใจและถือเป็นไฮไลท์เห็นจะเป็นเกาะอูรอส (Uro Islands) ซึ่งเป็นเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นมาโดยชาวอูรอสจะใช้ต้นโทโทราที่หาได้ทั่วไปจากทะเลสาบมายึดติดกันไว้ด้วยเชือกที่ปักอยู่กับพื้นทะเลสาบ เรียกว่าเป็นเกาะธรรมชาติฝีมือมนุษย์ แต่เพราะส่วนที่อยู่ใต้น้ำจะค่อยๆเน่าไปตามกาลเวลาชาวอูรอสจึงต้องทำการซ่อมแซมเกาะอยู่เป็นระยะๆ